วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2559

ลูกอีสาน บทที่ ๑

บทที่ ๑
หมู่บ้านเริ่มร้าง
         
เมื่อ ๔๗ ปีก่อน   ในภาคอีสานยังมีหมู่บ้านแห่งหนึ่ง  ทุกบ้านมีสภาพเหมือนกันหมดคือมียุ้งฉางใกล้บ้าน  และคอกวัวควายใต้ถุนบ้าน  รอบๆหมู่บ้านมีทุ่งนาและหนองน้ำ  เลยหนองไปอีกหน่อยก็เป็นป่าโปรง  ซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า โคกอีแหลว
          และยังมีบ้านหลังหนึ่งซึ่งมีสมาชิกด้วยกัน ๕ คน  คือมีพ่อแม่ และลูกๆอีกสาม (พี่ชายหนึ่ง
และเด็กผู้หญิงสองคนยี่สุ่นและบุญหลาย)
          วันหนึ่งคูน ลูกชายคนโตอยากได้ซื้อกะโพกญี่ปุ่นจึงขอเงินพ่อไปซื้อ  แต่พ่อก็ไม่ให้  ทำให้คูนได้แต่นั่งมองพวกแกวหาบเร่เดินไปจนลับตา  และพ่อก็เคยบอกคูนว่าอย่าไปยุ่งกับพวกคนแกวนั้น  เพราะว่าพวกนั้นมันหมอ  แต่แม่ของคูนออกมาค้านพ่ออีกว่าถ้าพวกเราคนอีสานไปเอาอย่างแกวจะไม่มีวันทุกข์ยากปากหมอง
          วันหนึ่งเป็นวันที่ร้อนมาก  ขณะที่เด็กๆทั้งสามคนเล่นอยู่ใต้ถุนบ้าน  แม่ก็ก็เอาไข่หมกในทรายมาให้เด็กๆกิน  พอพ่อลงมาเห็นก็บอกกับเด็กๆว่า  ไข่หมกทรายกินแล้วทำให้เรียนเก่ง  คูนจึงสงสัยแล้วถามพอว่าจะให้ตนไปโรงเรียนหรือ  พ่อก็ถามต่อไปว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร  คูนตอบว่าอยากเป็นพ่อค้าหาบเร่เหมือนพวกแกว  พอพูดคุยกันเสร็จแม่ก็ให้พ่อไปซื้อเสื้อนักเรียนและหนังสือเรียนให้คูน
          วันหนึ่งผีปอบเข้ามากินตับปู่ในบ้านคุ้มบ้านใต้  ด้วยความอยากรู้ของคูน  จึงแอบเข้าไปดูไกลๆ  แล้วคูนก็เห็นคนหนึ่งถือแส้ตีปู่ที่นอนร้องอยู่แล้วเอาน้ำรดลงตัวปู่  แล้วคนที่ถือแส้ก็ถามปู่ว่ามึงเป็นผีปอบตัวไส  ซื่ออีหยังบอกมาไวๆ  แล้วปู่ก็ตอบว่า กูบ่แมนผีปอบ กูเป็นไข้ป่า พอแล้วๆอย่าอาบน้ำให้กู   ต่อมาไม่นานคูนก็น้องไห้โห่งๆเพราะคูนได้ยินเสียงคนข้างบนร้องไห้  พอมาดูก็พบว่าคุณปู่ไม่ลืมตา  แล้วคุณปู่ก็หายหน้าไปตั้งแต่คราวนั้นอีกต่อไป
 เช้ามืดวันหนึ่งมีเสียงเซ็งแซ่ที่หน้าบ้าน  คูนตื่นขึ้นก็เห็นพ่อแม่กำลังร่ำลาลุงสี ลุงแก้วและภรรยา  เนื่องจากว่าพวกเขาจะย้ายไปอยู่ที่บ้านดินดำน้ำชุ่ม  ด้วยความสงสัยของคูน  จึงไปถามแม่ว่าบ้านดินน้ำชุ่มคืออะไร  แม่ตอบว่าคือที่ทำนาได้ทุกปี  คูนจึงไปถามพ่อว่าทำไมเราไม่ย้ายไปอยู่ที่นั้นบ้าง  พ่อก็ตอบว่าปู่ของลูกสั่งเสียว่าอย่าย้ายไปไหน...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น